ในสัญญาจ้างพนักงานนอกจากสามารถเพิ่มเงินได้ประจำเช่น ค่าตำแหน่ง, ค่าน้ำมัน เป็นต้นได้แล้ว ยังสามารถเพิ่มเงินหักประจำเช่น ค่าจอดรถ, เงินกู้ยืม เป็นต้น ได้อีกด้วย ทั้งนี้เงินหักประจำสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ
1) เงินหักประจำต่อเดือน (Monthly)
1.1) กรณีตั้งค่าเงินเดือนเป็น เดือนละครั้ง (Once a Month)
เงินหักประจำที่ระบุในสัญญาจ้างจะเป็นเงินหักต่อเดือน ดังนั้นเมื่อมีการทำเงินเดือน รายละเอียดเงินเดือนจะแสดงจำนวนเงินหักประจำเท่ากับที่แสดงในสัญญาจ้าง
1.2) กรณีตั้งค่าเงินเดือนเป็น เดือนละสองครั้ง (Twice a Month)
เงินหักประจำที่ระบุในสัญญาจ้างจะเป็นเงินหักต่อเดือน ดังนั้นเมื่อมีการทำเงินเดือน รายละเอียดเงินเดือนจะแสดงจำนวนเงินหักประจำต่องวดเท่ากับเงินหักประจำที่แสดงในสัญญาจ้างหาร 2
1.3) กรณีตั้งค่าเงินเดือนเป็น รายสัปดาห์ (Weekly)
เงินหักประจำที่ระบุในสัญญาจ้างจะเป็นเงินหักต่อสัปดาห์ ดังนั้นเมื่อมีการทำเงินเดือน รายละเอียดเงินเดือนจะแสดงจำนวนเงินหักประจำเท่ากับที่แสดงในสัญญจ้าง
2) เงินหักประจำแบบผ่อนชำระ (Installment)
2.1) กรณีที่ตั้งค่าเงินเดือนเป็น เดือนละครั้ง (Once a Month)
เงินหักประจำที่แสดงในรายละเอียดเงินเดือนจะเท่ากับ จำนวนเงินหักประจำ หาร จำนวนเดือน
ตัวอย่าง
เงินหักประจำชื่อ เงินกู้ยืม จำนวน 10,000 บาท โดยผ่อนชำระ 10 เดือน
เดือนที่ 1 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 10,000 / 10 = 1,000 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 9,000 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 9 เดือน
เดือนที่ 2 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 9,000 / 9 = 1,000 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 8,000 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 8 เดือน
เดือนที่ 3 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 8,000 / 8 = 1,000 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 7,000 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 7 เดือน
2.2) กรณีที่ตั้งค่าเงินเดือนเป็น เดือนละสองครั้ง (Twice a Month)
เงินหักประจำที่แสดงในรายละเอียดเงินเดือนจะเท่ากับ จำนวนเงินหักประจำ หาร จำนวนเดือน หาร 2
ตัวอย่าง
เงินหักประจำชื่อ เงินกู้ยืม จำนวน 6,000 บาท โดยผ่อนชำระ 4 เดือน
เดือนที่ 1 งวดแรก ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 6,000 / 4 / 2= 750 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 5,250 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 3.5 เดือน
เดือนที่ 2 งวดสอง ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 5,250 / 3.5 / 2 = 750 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 4,500 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 3 เดือน
เดือนที่ 3 งวดแรก ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 4,500 / 3 / 2 = 750 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 3,750 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 2.5 เดือน
2.3) กรณีที่ตั้งค่าเงินเดือนเป็น รายสัปดาห์ (Weekly)
เงินหักประจำที่แสดงในรายละเอียดเงินเดือนจะเท่ากับ จำนวนเงินหักประจำ หาร จำนวนสัปดาห์
ตัวอย่าง
เงินหักประจำชื่อ เงินกู้ยืม จำนวน 3,000 บาท โดยผ่อนชำระ 3 สัปดาห์
เดือนที่ 1 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 3,000 / 3 = 1,000 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 2,000 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 2 สัปดาห์
เดือนที่ 2 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 2,000 / 2 = 1,000 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 1,000 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 1 สัปดาห์
อย่างไรก็ดีกรณีที่มีการแก้ไขเงินหักประจำในรายละเอียดเงินเดือน ยอดเงินหักประจำในสัญญาจ้างจะแสดงยอดคงเหลือที่มีการอัปเดท
ตัวอย่าง
เงินหักประจำชื่อ เงินกู้ยืม จำนวน 10,000 บาท โดยผ่อนชำระ 8 เดือน
เดือนที่ 1 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 10,000 / 8 = 1,250 บาท
แก้ไขเงินยอดเงินกู้ยืมในรายละเอียดเงินเดือนจาก 1,000 เป็น 3,500 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 6,500 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 7 เดือน
เดือนที่ 2 ระบบจะคำนวณเงินหักประจำเท่ากับ 6,500 / 7 = 928.58 บาท
แก้ไขเงินยอดเงินกู้ยืมในรายละเอียดเงินเดือนจาก 928.58 เป็น 2,900 บาท
ในสัญญาจ้างจะแสดงจำนวนเงินหักประจำคงเหลือของเงินกู้ยืมเท่ากับ 3,600 บาท และแสดงจำนวนเดือนที่ผ่อนชำระเท่ากับ 6 เดือน
หมายเหตุ
ดูเรื่อง การเพิ่มพนักงาน (Add Employee) เพิ่มเติมได้ที่ LINK